หุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนในวันนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและการประกาศผลประกอบการของสหรัฐที่เข้มแข็ง หุ้นพลังงานและการทำเหมืองแร่เป็นผู้นำในการปรับขึ้นของเช้านี้ เนื่องจากน้ำมันเบรนท์และ WTI มีการเทรดอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2014 น้ำมันได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลของ Energy Information Administration เผยให้เห็นว่าน้ำมันดิบในคลังสำรองลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของ 13 เมษายน ขณะที่คลังน้ำมันเบนซินและผลิตภัณฑ์จากการกลั่นลดลงมากกว่า 3 ล้านบาร์เรล ตอนนี้ก็ถึงตาของโอเปกและผองเพื่อนที่จะใช้ประโยชน์จากรายงานนี้เนื่องจากพวกเขาจะมีการประชุมที่ญิดดะฮ์ในวันศุกร์

ในขณะที่การกำจัดอุปทานส่วนเกินเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาน้ำมัน ผมยังเชื่อว่ามีส่วนชดเชยความเสี่ยงที่สำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ โดยเฉพาะความกลัวในการหยุดชะงักของการส่งออกจากตะวันออกกลางและมาตรการคว่ำบาตรใหม่ที่อาจเกิดขึ้นกับรัสเซียและอิหร่าน แม้ว่าโอเปกอาจส่งสัญญาณการขยายเวลาในข้อตกลงการลดการส่งออก ผมคิดว่าราคาเป้าหมายที่ประมาณ $80 ถึง $100 ดูไม่สมจริงเอาเสียเลย หินน้ำมันของสหรัฐตอนนี้มีแรงจูงใจให้ผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาสามารถป้องกันความเสี่ยงได้ในราคาที่น่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เราคาดการณ์ได้ว่าการผลิตของสหรัฐจะมากกว่า 11 ล้านบาร์เรลเร็วกว่าคาดไว้

โลหะพื้นฐานและโลหะมีค่าก็ปรับขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยดัน Core Commodity CRB Index ขึ้นไปที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2015 ธนาคารกลางควรเป็นกังวลถึงการตามหลังเส้นหรือไม่เมื่อพูดถึงอัตราเงินเฟ้อ ในเดือนหน้า เราน่าจะได้รับรู้ถึงผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จากข้อมูลเงินเฟ้อของผู้บริโภค

ขณะที่การปรับขึ้นในสินค้าโภคภัณฑ์และผลประกอบการที่แข็งแกร่งส่งสัญญาณบวกให้กับนักลงทุน แต่ตลาดตราสารหนี้กลับส่งสัญญาณในทิศทางตรงกันข้าม เส้นอัตราผลตอบแทนของสหรัฐอยู่ในพาดหัวข่าวมาสักระยะหนึ่งแล้ว และผลตอบแทนระหว่าง 10 กับ 2 ปีในตั๋วเงินคลังหดลงเหลือ 41 bps เมื่อวานนี้ ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2007 หากเส้นผลตอบแทนกลับด้านภายในหกเดือน ตามที่เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดของเซนต์หลุยส์ได้กล่าวไว้ ก็จะเป็นข้อบ่งชี้ว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะถดถอยนั้นน่าจะเป็นจริงมากขึ้น โดยเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หนี้ทั่วโลกอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอ้างอิงมาจาก IMF ยอดหนี้รวมทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 164 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา

ในตลาดสกุลเงิน สเตอร์ลิงจะดึงความสนใจได้มากที่สุด หลังจากที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวังได้ดึง GBPUSD ลงมาจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงการโหวต Brexit ในขณะที่ข้อมูลการเติบโตของค่าจ้างสนับสนุนโอกาสที่ธนาคารกลางแห่งประเทศอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องรีบ หากดัชนียอดขายปลีกในวันนี้ออกมาน่าผิดหวังอย่างมาก ผมคิดว่ามีโอกาสสูงที่ BoE จะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปจนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสเตอร์ลิงอาจปรับลงต่อไปที่ 1.40

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน